Pages

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อนาคตพลังงานไทยใน AEC

        
         เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามสภาพเศรษฐกิจ  โดยดูได้จาก GDP จะพบว่าเรามีการใช้ไฟฟ้าในช่วงสูงสุด ประมาณ  26,000 เมกะวัตต์    ขณะที่เรามีกำลังผลิตที่จะซัพพลายประมาณ 33,000 เมกะวัตต์ แต่ละปีจะมีปริมาณการใช้ไฟจะสูง 4.5 -5 %  และหากมองในแง่ของอุตสาหกรรมจะพบว่าปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมจะสูงขึ้นเฉลี่ยปีละเกือบ 40 %

        แม้ว่าจะเดินหน้าตามแผน PDP (Power Development Plan)คาดไว้ว่าอีก 17 ปี  จะมีการใช้ไฟดับเบิ้ลขึ้นไปประมาณ 70,000 เมกะวัตต์   เฉลี่ยแล้วอาจจะต้องผลิตไฟฟ้าเพิ่มปีละ 1,000 เมกะวัตต์  แต่ที่ผ่านมาไทยแทบไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขณะที่โรงไฟฟ้าเก่าเริ่มทยอยหมดอายุการใช้งาน คุณผู้อ่านคงพอจะมองเห็นภาพ อนาคตพลังงานไทย ได้อย่างลางๆ

        คราวนี้เรามาดูน้ำมันกันบ้าง แม้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีความพยายามในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานประเภทต่างๆ ที่มิใช่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้สำหรับภาคการขนส่ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

         ปริมาณการใช้พลังงานน้ำมันที่สูงขึ้นของประเทศไทย สัมพันธ์กับหลายปัจจัยทั้งอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ การขยายตัวของการขนส่งสินค้าทางถนน จำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย รวมถึงนโยบายจากรัฐบาลที่สนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการเป็นเจ้าของรถยนต์ (นโยบายรถคันแรก)

         นอกจากนี้ นโยบายการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในระดับที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางน้ำ การขนส่งสินค้าในระบบรางยังอยู่ในระหว่างการลงทุน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยยังอยู่ในภาวะพึ่งพาพลังงานที่นำเข้าจากต่างประเทศ  โดยเฉพาะการนำเข้าน้ำมันดิบสูงถึงกว่า 85 % ของปริมาณความต้องการใช้ทั้งในภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรมและภาคการขนส่งภายในประเทศ
        จากฐานความจริงในขณะนี้เชื่อว่าคงพอจะมองเห็นอนาคตพลังงานไทยแล้วว่าจะเป็นเช่นไร

        แม้ว่าในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังสามารถที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้เพื่อพยายามประคอง อนาคตพลังงานไทย ให้บรรลุเป้าหมายในฐานะที่เป็นศูนย์กลางอาเซียน

        ดูเหมือนว่าความหวังของ อนาคตพลังงานไทย คงต้องฝากไว้กับการเปิด AEC ในครั้งนี้ เนื่องจากการประท้วงในเรื่องการตั้งโรงไฟฟ้าในทุกพื้นที่ของประเทศ ทำให้แทบจะหมดทางเลือกในเรื่องความยั่งยืนด้านพลังงานแต่ก็ยังไม่ได้บอกว่า อนาคตพลังงานไทย ถึงขั้นอัสดง เพราะอย่างน้อยยังมีอีกหลายชาติในอาเซียนที่ยินดีจะขายพลังงานให้กับไทย อาทิ  เมียนมาร์ ลาว และในอนาคตก็คือเวียดนามในการที่ส่งพลังงานเข้ามาในประเทศไทย

        แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไทยจะเป็นได้แค่เพียง ลูกค้า ของประเทศเหล่านี้เพราะถึงอย่างไรกลุ่มประเทศดังกล่าวแม้จะมีทรัพยากรมหาศาลแต่ขาดเทคโนโลยีซึ่งไทยก็จะลงทุนสายส่งและบริหารจัดการในเรื่องนี้เนื่องจากไทยอยู่ตรงกลางของภูมิภาค
        
        การที่เมียนมาร์จะขายไฟให้กับกัมพูชา อย่างไรก็ต้องผ่าน สายส่งไฟฟ้า ของไทย หรือแม้แต่ในอนาคตหากเวียดนามสามารถสร้างโรงฟ้านิวเคลียร์ได้สำเร็จ และเขาต้องการขายไฟฟ้าให้กับเมียนมาร์ในส่วนพื้นที่(ตามแนวชายแดน) ซึ่งรัฐบาลเมียนมาร์ยังไม่เข้าไปลงทุนในเรื่องสายส่งไฟฟ้าก็ต้องส่งผ่านประเทศไทย

สิ่งเหล่านี้คือ โอกาส ของไทยในอนาคต

การใช้พลังงานในประเทศไทย



แหล่งพลังงานของประเทศสมาชิกอาเซียน
ภาพจาก talkenergy
        นอกจากนี้การวิจัยและพัฒนาในเรื่องของพลังงานทางเลือกก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าพลังงานทางจะไม่สามารถทดแทนพลังงานที่มาจากฟอสซิลได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยก็ทำให้ปริมาณการนำเข้าไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิงอื่นๆลดลงเนื่องจากขณะนี้ไทยคือประเทศที่มีเทคโนโลยีเรื่องพลังงานทางเลือกเป็นอันดับต้นๆในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวมวล การปลูกพืชพลังงาน สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นกำลังสำคัญที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับอนาคตพลังงานไทย
        สุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ประชาชนคนไทยต้องตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานโดยการใช้อย่างประหยัดและรู้คุณค่าเพราะหากคุณช่วยกันประหยัดเพียงคนละนิด 60 กว่าล้านก็นับว่ามหาศาล ถ้าช่วยกันเช่นนี้ อนาคตพลังงานไทย ย่อมยั่งยืนได้อย่างแน่นอนครับ

ที่มา : http://www.xn-
-12cfbl0e0ad9tmdvd.com/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99-aec/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น